การทำความสะอาดร่างกายทารก · ทารกควรอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง · ในกรณีที่สายสะดือยังไม่หลุด ( ปกติสายสะดือจะหลุดหลังจากเกิดประมาณ 7-10 วัน ) …

การทำความสะอาดร่างกายทารก
- ทารกควรอาบน้ำด้วยน้ำอุ่น อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
- ในกรณีที่สายสะดือยังไม่หลุด ( ปกติสายสะดือจะหลุดหลังจากเกิดประมาณ 7-10 วัน ) ควรเช็ดทำความสะอาดสายสะดือ ด้วยน้ำยาเช็ดสะดือ 70% แอลกอฮอล์ โดยใช้สำลีชุบน้ำยาเช็ดปลายสะดือมาที่โคนสะดือ เช็คทุกวันหลังอาบน้ำ จนกว่าสะดือจะหลุดและแผลแห้งดี
- การทาแป้งไม่ควรโรยแป้งที่สะดือ
ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมทุกครั้ง หลังจากทารกปัสสาวะ หรืออุจจาระ
การให้นมและอาหารเสริมแก่ทารก
ทารกควรได้รับเฉพาะนมมารดาจนถึงอายุ 6 เดือน หลังจากนั้นถึงจะให้รับประทานอาหารเสริมตามอายุของทารก

อาการทั่วไปที่มักพบในเด็กทารก
ขี้กลากน้ำนม
คือลักษณะผิวหนังที่มีลักษณะเป็นผืนแดงและบางที่มีน้ำเหลืองเยิ้ม เริ่มเป็นที่แก้มทั้ง 2 ข้าง และกระจายไปทั่วใบหน้า
การป้องกัน
- ควรเลี้ยงทารกด้วยน้ำนมธรรมดา
- เวลาป้อนนมเสร็จควรทำความสะอาดบริเวณแก้มทั้ง 2 ข้างให้สะอาด
อาการสะอึก
อาจพบภายหลังดูดนมเนื่องจากการทำงานของกระบังลม ยังไม่เป็นปกติหรือส่วนยอดของกระเพาะอาหารที่ขยายตัวจากน้ำนมและลมที่กลืนลงกระเพาะ สัมผัสกับกะบังลม หากทำการไล่ลมโดยจับทารกนั่ง หรืออุ้มพาดบ่าสัก 5-10 นาที ภายหลังทารกดูดนมจนอิ่มแล้งยังมีอาการสะอึก ถือว่าเกิดจากกระบังลมทำงานไม่ปกติซึ่งไม่ต้องทำการรักษาใดๆ อาการจะหายไปเองเมื่อโตขึ้น
การถ่ายอุจจาระบ่อย
ทารกแรกเกิดที่เลี้ยงด้วยนมแม่อย่างเดียว เด็กอาจถ่ายอุจจาระกะปริดกะปรอยขณะดูดนมแม่ บิดตัวหรือผายลมก็จะมีอุจจาระเล็ดออกมาด้วย ทำให้เข้าใจผิดว่าท้องเดินบางครั้งทารกถ่าย 7-10 ครั้งต่อวัน อุจจาระมีสีเหลืองเข้มคล้ายสีทองมีกลิ่นเปรี้ยว สาเหตุจากนมแม่มีนมเหลือง Colostrum เจือปน ช่วยระบายท้อง กรณีดังกล่าวถือว่าเป็นอาการปกติ แต่ถ้าถ่ายเป็นมูกเลือด ทารกร้องงอแงไม่ดูดนม มีไข้ ซึม ต้องรีบนำทารกมาพบแพทย์

การสังเกตอุจจาระและปัสสาวะ
- ใน 2-3 วันแรกหลังคลอด อุจจาระจะเป็นสีเทาดำตามปติ ( เรียกว่าขี้เทา )
- ทารกที่ได้รับนมแม่อุจจาระจะเหลว และมักถ่ายเสมอหลังให้นม
- ทารกที่ได้รับนมผสม อุจจาระจะแข็ง และมีกากมากกว่าทารกที่ได้รับนมแม่
- ถ้าทารกถ่ายอุจจาระเหลว 6-10 ครั้งต่อวัน และมีอาการซึม ไม่ดูดนม ถือว่าผิดปกติ
- ปกติทารกควรปัสสาวะ 6-10 ครั้งต่อวัน ถ้าต่ำกว่านี้ให้ดื่มน้ำมากๆ
ผื่นผ้าอ้อม
คือการอักเสบของบริเวณผิวหนังจากการระคายเคืองของสิ่งที่มาสัมผัส ความอับชื้นจากการสัมผัสอุจจาระ ปัสสาวะเป็นเวลานานทำให้เกิดผิวหนังแดง เป็นผื่นและเม็ดตุ่มพองขนาดเล็กอาจจะมีรอยแยก ทำให้ทารกแสบบริเวณผื่นผ้าอ้อมเมื่อเด็กนอนแช่ปัสสาวะและอุจจาระ
การป้องกัน
หมั่นดูแลผิวหนังใต้ผ้าอ้อมให้สะอาด แห้ง อย่าปล่อยให้นอนแช่ปัสสาวะ อุจจาระ ควรเปิดดูผ้าอ้อม ทั้งก่อนและหลังป้อนนม จะป้องกันไม่ให้ทารกเป็นผื่นผ้าอ้อมได้
การนอน
2-3 วันหลังคลอด ทารกจะหลับนานและดื่มเฉพาะเวลาที่หิวนม ( ปกติทารกจะนอนหลับ 12-16 ชั่วโมงต่อวัน ) หลังจาก 3 วันหลังคลอด ทารกจะมีการเคลื่อนไหวมากขึ้น
การร้อง
การร้องของทารกแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน ส่วนมากจะร้องเมื่อมีความต้องการ เช่น ต้องการนม ต้องการความอบอุ่น หรือถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ เป็นต้น

อาการผิดปกติที่ควรรีบนำทารกมาพบแพทย์
- ทารกมีไข้สูงเกิน 38.4 องศาเซลเซียส ระหว่างเดินทางมาพบแพทย์ ควรเช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดา
- ทารกมีอาเจียนพุ่งมากกว่า 1 ครั้ง มารดาต้องแยกให้ออกระหว่างอาเจียนกับสำรอก
การสำรอก จะเกิดเมื่อทารกได้รับน้ำนมหรือน้ำมากเกินความต้องการ หรือเมื่อเปลี่ยนท่าของทารกเร็วๆหลังให้น้ำนม สิ่งที่ขับออกมาจะมีจำนวนน้อย ดังนั้น หลังให้นมทารกควรอุ้มเรอก่อนให้ทารกนอน
อาเจียน จะเกิดได้ตั้งแต่ทารกเริ่มได้รับนมหรือน้ำและจำนวนมากกว่าสำรอก
- ทารกมีอาการง่วงซึม ไม่เคลื่อนไหวแม้กระตุ้น
- ทารกหน้าเขียวขณะให้นม ควรงดให้นม
- ทารกไม่หายใจเกิน 15 วินาที
- กล้ามเนื้อแขน ขาลีบ อ่อนปวกเปียก ดูดนมไม่ดี ตัวเหลือง กระหม่อมโป่งตึง ร้องไห้เสียงแหลม
- อาการสั่นและชักกระตุก เกร็ง
- ฝ้าน้ำนมจากเชื้อรา