MDs’ LIFE ความเข้าใจที่ผู้ชายยุคใหม่ควรมีต่อเรื่อง การทำแท้ง

เมื่อเกิดเหตุการณ์การตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์หรือท้องแบบไม่ได้ตั้งใจ ผู้ชายควรทำอย่างไร? นี่น่าจะเป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่ถ้าเกิดขึ้นก็นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ของหลาย ๆ คน เพราะไม่ใช่เรื่องที่สามารถตัดสินใจได้คนเดียว เราต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงตกลงกับฝ่ายหญิงให้ลงตัวที่สุดก่อนตัดสินใจทำอะไรต่อ ไม่ว่าจะเป็นตัดสินใจแต่งงาน รับเป็นพ่อของลูก เลี้ยงดูบุตรร่วมกันหรือกระทั่งทำแท้งก็ตาม วันนี้อยากให้ทุกคนได้ลองทำความเข้าใจต่อเรื่อง การทำแท้ง ให้ตรงกับมุมมองของผู้หญิงให้มากขึ้น

อย่ามีข้อแม้ในการเริ่มต้นด้วย Safe Sex

หากไม่อยากให้ชีวิตดำเนินไปถึงจุดที่คนอื่นถามว่า “ทำไมพลาด” ผู้ชายยุคใหม่ควรเริ่มต้นด้วยการมีเพศสัมพันธ์แบบ Safe Sex และใส่ Condom ตั้งแต่แรกเลย จริงอยู่ว่าวิธีการคุมกำเนิดมีหลายวิธี ตั้งแต่วิธีชั่วคราวอย่างการใส่ถุงยางอนามัย การนับวัน การกิน ฝังหรือฉีดยาคุมกำเนิด ไปจนถึงคุมกำเนิดแบบถาวรโดยการทำหมัน หากไม่ต้องการมีบุตรแล้ว

ซึ่งวิธีการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวที่ฝ่ายชายสามารถรับผิดชอบได้ คือ การใส่ถุงยางขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่โอเคกับทั้งสองฝ่ายมากกว่าผลักให้ฝ่ายหญิงกินยาคุมอยู่คนเดียว ยาคุมควรเป็นทางเลือกรอง เพราะไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่พร้อมจะกินยาคุม เนื่องจากยาคุมก็มีเอฟเฟคกับร่างกายของบางคนได้ การใส่ถุงยางอนามัยขณะมีอะไรกันก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีการแสดงความรับผิดชอบต่ออีกฝ่ายเช่นกัน

คำว่าผู้ชายต้องรับผิดชอบ ไม่เท่ากับแต่งงานเสมอไป

หากเกิดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ขึ้นมา หนึ่งข้อที่ต้องหยิบมาประเมินในการตัดสินใจว่าจะเก็บบุตรไว้หรือให้ฝ่ายหญิงไปทำแท้ง คือ ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับฝ่ายหญิง หากเป็นคนที่คบหากันอยู่หรือมีแพลนจะแต่งงานในอนาคตอยู่แล้ว โอกาสในการทำแท้งอาจไม่สูงเท่าเกิดกับฝ่ายหญิงที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ในระดับที่จริงจังต่อกันครับ แต่ไม่ว่าฝ่ายหญิงจะอยู่ในสถานะใดกับเรา สิ่งที่ต้องทำ คือ Take responsibility ในส่วนที่ตัวเองสามารถทำได้ให้มากที่สุด อย่าผลักภาระและการตัดสินทั้งหมดไปให้เธอ

แต่ผู้ชายต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การต้องรับผิดชอบเมื่อผู้หญิงท้องไม่ได้เท่ากับต้องแต่งงานเสมอไป เพราะไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่มีทัศนะว่า เมื่อท้องโดยไม่ตั้งใจแล้วจะอยากให้ผู้ชายมารับผิดชอบโดยการแต่งงานและเลี้ยงลูกด้วยกัน เรื่องเหล่านี้ขึ้นอยู่กับพื้นเพความสัมพันธ์เดิมของทั้งสองคน การแสดงออกของเราเมื่อทราบเรื่อง ความพร้อมของฝ่ายหญิงในการตั้งท้องเด็กคนหนึ่งเพราะเธอจะต้องสูญเสียช่วงชีวิตหรือโอกาสบางส่วนไป รวมถึงค่าใช้จ่ายอะไรหลาย ๆ อย่าง

ฉะนั้นการแสดงความรับผิดชอบที่แท้จริงในฐานะผู้ชายเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น คือ ต้องมีการตกลงร่วมกันอย่างชัดเจน ถ้าตกลงกันว่าจะทำแท้ง เราต้องเป็นคนพาไป ตรวจสอบโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่รับยุติครรภ์อย่างถูกกฎหมายเพื่อที่จะมั่นใจในความปลอดภัยของฝ่ายหญิงได้ รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หรือถ้าจะตกลงให้ฝ่ายหญิงคลอดบุตรก็ต้องคุยกันให้ชัดเจนว่าจะเลี้ยงดูกันอย่างไร เลี้ยงร่วมกันไหมหรือลูกอยู่กับใคร เป็นต้น

เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คนที่กังวลใจที่สุด คือ ฝ่ายหญิง ฉะนั้นอย่าปล่อยให้เธอแบกรับภาระทางใจคนเดียว ไม่ว่าเราจะคิดอย่างไร ให้รอฟังการตัดสินใจของเธอก่อนว่าเธอมี Direction ในการตัดสินใจแบบไหน เธอพร้อมตั้งครรภ์หรือไม่ อยากเลี้ยงดูบุตรไหม หรือว่าเธอมองว่าการทำแท้งน่าจะเป็นทางที่โอเคที่สุดสำหรับทุกฝ่าย คุยกับเธอให้เข้าใจ รวมถึงให้เวลาเธอตัดสินใจโดยไม่เร่งรัดเธอ

เมื่อฟังความเห็นของเธอแล้วค่อยแชร์ความคิดเห็นของตัวเองกลับไปว่า ฝ่ายเราต้องการทำอย่างไร การตัดสินใจไปในทิศทางเดียวหรือเปล่า หากคำตอบไม่ตรงกัน เราควรจะแคร์ความคิดเห็นของฝ่ายหญิงให้มาก ๆ นะครับ อย่ากดดันหรือบีบบังคับเธอให้ต้องไปตัดสินใจเลือกอีกทางที่เธอไม่ต้องการเด็ดขาด ความรู้สึกยินยอม (Consent) ไม่ว่าจะเป็นต่อการตัดสินใจอุ้มท้องหรือทำแท้งของเธอสำคัญที่สุด เราต้องให้พื้นที่เธอในการให้สิทธิในร่างกายตัวเอง

หยุดมุมมองว่าทำแท้งเท่ากับบาป และไทยทำแท้งถูกกฎหมายได้แล้ว

หากใครมีความคิดที่ว่า อย่าทำแท้งเลยเพราะกลัวบาป  ฝ่ายหญิงอาจกลัวบาปจากการที่เป็นลูกตัวเอง หรือฝ่ายชายบางคนอาจกลัวว่าจะเป็นบาปจากการผลักดันให้ผู้หญิงตัดสินใจทำแท้ง เป็นประเด็นที่เรามองว่าควรจะปรับมุมมองก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงคิดก็ตาม ถ้าเกิดการตั้งครรภ์แบบไม่พึงประสงค์ขึ้นแล้วคนเป็นพ่อแม่ไม่พร้อมเลี้ยงดู หรือมีโอกาสที่จะเลี้ยงลูกอย่างไม่มีคุณภาพ นั่นเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจมากกว่าการตัดสินใจทำแท้งเสียอีก

อย่าเอาคำว่าบาปมาเป็นเครื่องบีบให้ต้องเลี้ยงดูหนึ่งชีวิต ทั้งที่ตัวเองหรือฝ่ายหญิงไม่พร้อม เพราะการมีบุตรทั้งที่ไม่ได้อยากมี ไม่พร้อมเลี้ยงดูทั้งในแง่ความรู้สึก เวลา เงินและการซัพพอร์ตให้คนคนหนึ่งขึ้นมาได้อย่างมีคุณภาพ นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจยิ่งกว่าเสียอีกครับ อย่ามีลูกเพราะแค่กลัวบาป

ส่วนใครที่ห่วงว่าการทำแท้งจะผิดกฎหมาย ไม่ต้องกังวลครับ ประเทศไทยสามารถทำแท้งถูกกฎหมายได้แล้ว หากอายุครรภ์อยู่ภายใน 12 สัปดาห์ก็สามารถทำได้ แต่ถ้าอายุครรภ์เกินต้องไปปรึกษาแพทย์เสียก่อน ซึ่งการทำให้กฎหมายทำแท้งนั้นมีอยู่อย่างถูกกฎหมายนั้นคงจะเป็นผลดีต่อผู้หญิงไทยมากขึ้นเยอะ จะได้ไม่ต้องมีการทำแท้งเถื่อนจนอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายตัวเองได้

และนี่คือสิ่งที่ผู้ชายยุคใหม่ควรมีความเข้าใจต่อเรื่อง การทำแท้ง หากเรื่องนี้เกิดขึ้นก็ขอให้มีสติอยู่กับตัวมาก ๆ ค่อย ๆ ตัดสินใจและพูดคุยกับฝ่ายหญิง โดยมีอยู่จุดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับประเด็นนี้ คือ ประเทศที่เปิดกว้างเรื่องการทำแท้งนั้นจะมีอัตราการทำแท้งที่ต่ำกว่าประเทศที่ไม่อนุญาตให้ทำแท้งครับ เพราะประเทศเหล่านั้นมักให้ความรู้ประชาชนเรื่องการคุมกำเนิด การมีเพศสัมพันธ์และการวางแผนครอบครัวอย่างดี เราหวังว่าประเทศไทยจะมีทิศทางที่ดีขึ้นในอนาคตสำหรับเรื่องนี้เช่นกัน 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *