“ประเทศเราน่าจะทำได้มากกว่าอนุญาตให้ทำแท้งได้” เคที แอสคอว์ กล่าว
เธอเคยเป็นประธานองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยในกรุงดับลิน ของประเทศไอร์แลนด์ แต่ตอนนี้เธอกำลังรณรงค์ไปทั่วประเทศ ก่อนการลงประชามติในวันที่ 25 พ.ค. นี้ว่า จะยอมให้การทำแท้งถูกกฎหมายหรือไม่
“ฉันไม่คิดว่าผู้หญิงคนไหนอยากจะทำแท้ง” เธอกล่าว “ผู้หญิงที่ผ่านการทำแท้งคงรู้สึกว่าพวกเขา ไม่มีทางเลือกอื่น”
- หญิงเอลซัลวาดอร์ติดคุก 30 ปีเพราะ ‘แท้งลูก’
- “ทุกครั้งที่มองตาลูก ฉันเห็นหน้าคนข่มขืน” ฟังเธอเล่า ทำไมไม่ทำแท้ง?
“เพราะต้องเลือกระหว่างการทำแท้ง หรืองาน หรือการเรียนมหาวิทยาลัยต่อ”
“ฉันคงบอกว่า ไม่ควรมีผู้หญิงที่ต้องรู้สึกว่า ไม่สามารถทำงาน ใช้ชีวิต หรือทำตามความสามารถได้อย่างเต็มที่ต่อไปได้ เพียงเพราะลูกที่ยังไม่เกิดมาของพวกเธอ”

ประชามติทำแท้ง
วันที่ 25 พ.ค. นี้ คนในไอร์แลนด์ได้มีโอกาสออกเสียงว่า ต้องการคงกฎหมายที่ระบุว่าการทำแท้งผิดกฎหมายไว้ต่อไป หรือจะยกเลิก
ไอร์แลนด์ ห้ามการทำแท้งเกือบสิ้นเชิง โดยกฎหมายจะอนุญาตให้ทำแท้งได้ก็ต่อเมื่อ มีความเสี่ยงที่รุนแรงต่อชีวิตของแม่
โทษสูงสุดของการทำแท้งผิดกฎหมายคือจำคุก 14 ปี
กฎหมายนี้มีที่มาจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 8 ของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งได้ให้สิทธิแก่ทารกที่ยังไม่คลอดเช่นเดียวกับแม่ทุกอย่าง
ผู้มีสิทธิลงประชามติจะต้องเลือกโหวต “รับ” ถ้าพวกเขาต้องการยกเลิกกฎหมายนี้ และโหวต “ไม่รับ” ถ้าต้องการเก็บมันไว้

เคที่ วัย 21 ปี กล่าวว่า การเก็บกฎหมายจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 8 ไว้ เป็นเพียงคำตอบเดียว แต่นั่นก็เป็นทางเลือกที่ยากสำหรับผู้มีสิทธิลงประชามติบางส่วน
“มีคนจำนวนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากใจ พวกเขาต้องการเห็นการทำแท้งได้ในบางกรณี แต่ไม่ได้อยากจะให้ทำแท้งได้ตามความต้องการ” เธอกล่าวกับรายการเรดิโอ 1 นิวส์บีต
รัฐบาลไอร์แลนด์ กำลังเสนอว่า ถ้าคนลงมติยกเลิกการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งที่ 8 ผู้หญิงจะสามารถทำแท้งได้ภายในอายุครรภ์ 12 สัปดาห์แรก ซึ่งเป็นเรื่องที่เคที่เรียกว่า “สุดโต่ง”
หลังจาก 12 สัปดาห์ การทำแท้งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ การตั้งครรภ์มีความเสี่ยงต่อชีวิตของแม่ หรือมีความเสี่ยงอย่างรุนแรงต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้หญิง โดยอนุญาตให้ทำแท้งหลังตั้งครรภ์ไม่เกิน 24 สัปดาห์ การยุติการตั้งครรภ์จะต้องได้รับอนุญาตก่อนในกรณีที่เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์

‘เรายังไม่ได้สนับสนุนผู้หญิงในไอร์แลนด์‘
เคที่บอกว่า แทนที่จะทำให้การทำแท้งถูกกฎหมาย ควรจะสนับสนุนทางการเงินและสนับสนุนผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ดีกว่า
“เรื่องต่าง ๆ อย่าง การสนับสนุนทางการเงินในช่วงตั้งครรภ์, การดูแลทารกที่ป่วยหนักใกล้เสียชีวิต และการดูแลเด็กโดยรวมที่ดีขึ้น” เธอกล่าว “ในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ งบประมาณสำหรับการดูแลเด็กแทบไม่ได้รับการสนับสนุนอีกแล้ว”
เธอกล่าวต่อว่า “เรายังไม่ได้คุยกันเรื่อง บริการรับเลี้ยงดูเด็ก, การดูแลเด็ก, หญิงตั้งครรภ์ไร้บ้าน ถ้ามีความมุ่งมั่นผลักดันทางการเมือง เราก็สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้”
ปีที่แล้ว เคที เผชิญกับมรสุมชีวิต หลังจากที่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานองค์การนักศึกษาของมหาวิทยาลัยไม่กี่เดือน เพื่อนนักศึกษาได้ลงมติขับเธอพ้นจากตำแหน่ง หลังจากที่เธอถอดเนื้อหาเกี่ยวกับการเข้าถึงการทำแท้งในเอกสารที่แจกแก่นักศึกษาออก เธอกล่าวว่า เธอเพียงแค่ทำตามคำแนะนำทางกฎหมายของฝ่ายกฎหมายขององค์การ นักศึกษา เท่านั้น
“ฉันรู้สึกว่า ฉันถูกปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” เธอกล่าวกับ นิวส์บีต
**คำเตือน: รายละเอียดต่อไปนี้ อาจทำให้ผู้อ่านบางส่วนไม่สบายใจ**

การแท้งลูกของแม่ทำให้เธอตัดสินใจได้
เคที่ เล่าว่า หนึ่งในประสบการณ์สำคัญช่วยทำให้เธอมีความคิดเห็นต่อต้านการทำแท้งก็คือ เมื่อตอนเธออายุ 15 ปี แม่ของเธอแท้งลูกขณะอยู่ที่บ้านพร้อมกับเธอ
“มันเป็นประสบการณ์ที่พิเศษมาก…แม่ถามฉันว่า อยากจะเจอหน้าน้องชายตัวน้อยหรือเปล่า แล้วฉันก็ตอบว่า ‘อยาก'” เธอเล่า
“ฉันไม่เคยลืมความรู้สึกตอนเขาอยู่บนฝ่ามือ แล้วฉันก็มองหน้าเขา ฉันได้ถือว่าตัวเองเลือกเป็นผู้สนับสนุนการมีชีวิตอยู่แล้วในตอนนั้น ฉันตกใจที่เห็นพัฒนาการของเขา ขณะที่เขามีอายุเพียง 13 สัปดาห์ เขามีรอยย่นที่ข้อนิ้ว เขามีเล็บ เขามีครบเหมือนมนุษย์ เพียงแค่ตัวเล็กเท่านั้น”
“สำหรับฉัน นั่นช่วยเปิดตาฉันสู่ปัญหานี้ ทำให้ฉันเข้าใจจริง ๆ ว่า นี่คือชีวิตมนุษย์”

ผู้รณรงค์ยกเลิกกฎหมาย แย้งว่า การโหวตรับมีเป้าหมายเพื่อ “ความปลอดภัยของผู้หญิง เพื่อสังคมที่ยุติธรรม เพื่อไอร์แลนด์ที่มีความเป็นธรรมมากขึ้น” และจะเป็นการโหวต “เพื่อความเห็นอกเห็นใจ” ด้วย