3704d97dc4f9fe45430819f7c1193ef4_small

กรมอนามัย ยืนยันดื่ม “น้ำอัดลม” ผสม “เครื่องดื่มชูกำลัง” ไม่ทำให้แท้งลูก

March 25, 2023

กรมอนามัย เผยการดื่ม “น้ำอัดลม“ ร่วมกับ “เครื่องดื่มชูกำลัง“ ไม่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ แต่เสี่ยงน้ำหนักเกินหากกินเกินขนาด พร้อมแนะวัยรุ่นท้องไม่พร้อม ปรึกษาสายด่วนเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม วันที่ 29 ต.ค. 2564 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “หมอแล็บแพนด้า” แชร์ข้อมูลที่แสดงภาพขวดเครื่องดื่มชูกำลังกับน้ำอัดลมยี่ห้อดัง โดยมีบทสนทนาในคอมเมนต์อ้างว่า หากดื่มเครื่องดื่มนี้ผสมกัน จะทำให้แท้งลูกได้เอง พร้อมกับทำให้ประจำเดือนมา ซึ่งข้อความดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากการดื่มน้ำอัดลมร่วมกับเครื่องดื่มชูกำลัง ไม่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ แต่จะส่งผลต่อร่างกายหากดื่มน้ำอัดลมปริมาณมากอาจทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไป นำไปสู่ภาวะน้ำหนักเกิน และเป็นโรคอ้วนได้ ส่วนเครื่องดื่มชูกำลัง ถ้าดื่มปริมาณมากเกินไป จะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณกาเฟอีนเกินขนาด ส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย และหัวใจเต้นเร็วได้ สำหรับวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม การแก้ปัญหาเพื่อหาทางออกที่เหมาะสมสามารถปรึกษาออนไลน์ ได้ตามช่องทางต่างๆ ดังนี้ 1. RSA ออนไลน์ https://abortion.rsatha.org 2. สถานบริการปรึกษาท้องไม่พร้อม www.rsathai.org 3. โทร. 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม ซึ่งให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 – 21.00 น. และ 4) สามารถทักแชตเฟซบุ๊กแฟนเพจ 1663 ซึ่งให้บริการทุกวัน […]

ObZN37tlJ7RiTpgNHrU

5 วิธีขจัดความเครียดแม่ท้องเพื่อพัฒนาการทารกในครรภ์อารมณ์ดี

March 21, 2023

ความเครียดของแม่ท้องเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความกลัวและความกังวลในช่วงตั้งครรภ์ ความไม่สบายตัว ความปวดเมื่อยร่างกาย อาการเจ็บป่วยต่างๆ ช่วงตั้งครรภ์ แรงกดดันจากคนรอบข้าง รวมถึงความเครียดจากการกลัวการคลอดด้วย ซึ่งความเครียดเหล่านี้ส่งผลต่อพัฒนาการทารกในครรภ์โดยตรง เพราะลูกในท้องจะสัมผัสอารมณ์ของแม่ได้และแสดงอาการออกมาหลายแบบ เช่น ถ้าแม่เครียดมาก นอนไม่หลับ ลูกในท้องก็อาจจะไม่ดิ้น ไม่ขยับตัวเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเช่นกัน ดังนั้นหากแม่ท้องไม่มีความเครียดทารกในครรภ์ก็จะไม่เครียด รู้สึกผ่อนคลายสบายตัว เขาจะอยากขยับตัวเคลื่อนไหวเหมือนกำลังว่ายน้ำในท้องแม่อย่างสบายใจ ดังนั้นหากแม่ท้องมีความเครียดจะต้องรีบกำจัดด้วย 5 วิธีต่อไปนี้ค่ะ 2. หาคนคุยด้วยการอยู่คนเดียวอาจไม่ใช้ทางออกที่ดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์เสมอไป หากมีสิ่งที่อึดอัดหรือความกังวลเรื่องต่างๆ ลองหาคนพูดคุยด้วย อย่างเช่น สามี คนในครอบครัว เพื่อนๆ หรือแม้กระทั่งคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ด้วยกัน วิธีนี้นอกจากจะได้ระบายสิ่งที่กังวล ยังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอีกด้วย 3. นึกถึงลูกในครรภ์ความเครียดความกังวลทุกอย่างจะผ่อนคลายไปได้ เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์นึกถึงความปลอดภัยและทำทุกอย่างเพื่ทารกในครรภ์ สังเกตได้ว่าเมื่อคุณแม่ได้ลูบท้อง ได้พูดคุยกับลูกในท้อง คุณแม่จะผ่อนคลายและนึกถึงทุกครั้งว่าเมื่อไหร่ที่จะได้เห็นหน้าลูกน้อยเสียที 4. สร้างความสุขให้ตัวเองเมื่อถึงเวลาที่คุณแม่ตั้งครรภ์เครียด บางทีการสร้างความสุขให้ตัวเองก็เป็นทางออกที่ดีนะคะ เช่น การเดินช้อปปิ้งบ้าง การออกไปทานข้าวนอกบ้านกับครอบครัว ซื้อของที่อยากได้มานานแสนนานเป็นรางวัลให้กับตัวเอง วิธีนี้ก็สามารถขจัดความเครียดได้เช่นกัน 5. ปล่อยวางการนั่งสมาธิปล่อยวางความเครียดเป็นสิ่งที่ดีมากต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ เมื่อคุณแม่ฝึกนั่งสมาธิบ่อยๆ ลูกน้อยในครรภ์จะได้ความสงบและสบายใจซึ่งส่งผลถึงพัฒนาการที่ดีทั้งด้านสมองและจิตใจ เมื่อลูกลืมตาดูโลกจะสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกไปในทางที่ดีแน่นอนค่ะ

กระตุ้นลูกในครรภ์

วิธีกระตุ้นลูกน้อยให้แข็งแรงและบำรุงสมองตั้งแต่ในครรภ์

March 9, 2023

มากระตุ้นลูกน้อยให้แข็งแรงและบำรุงสมองตั้งแต่ในครรภ์กันเถอะ เริ่มจากอะไร? สิ่งที่สำคัญที่จะให้ลูกน้อยเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งเรื่องการเรียน การทำงานการใช้ชีวิต ฯลฯ จะประกอบด้วยหลายๆปัจจัย ไม่ว่าเรื่องสภาพแวดล้อมที่ได้รับ หรือแม้แต่ อาหารการกินตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ที่คุณแม่ได้เลือกทาน ว่าอาหารเหล่านั้นมีคุณค่าของสารอาหารมากน้อยแค่ไหน …ทั้งนี้หลักการและวิธีปฏิบัติที่สำคัญที่คุณแม่ควรทำเพื่อกระตุ้นภาวะร่างกายและสมองของลูกน้อยคือ

87476959_xl-scaled

อาการแท้ง 5 แบบ ที่คุณแม่ควรรู้ไว้

February 27, 2023

ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่จะต้องดูแลเอาใจใส่ ดูแลรักษาสุขภาพเป็นอย่างดี เพื่อทำให้ทารกน้อยที่อยู่ในครรภ์มีร่างกายที่สมบูรณ์ โดยการดูแลเรื่องอาหารการกิน ผ่อนคลายจิตใจ หากร่างกายอ่อนแอ มีความเครียดสูง จะทำให้แท้งบุตรได้ง่าย การแท้งบุตรนั้นมีหลายแบบ เราลองมาดูกันว่ามีแบบไหนกันบ้าง การแท้งบุตรเป็นนิจ เป็นอาการแท้งที่เกิดตั้งแต่ท้องแรก โดยสาเหตุของการแท้งเกิดขึ้นจากสาเหตุเดียวคือ เกิดจากมดลูกมีปัญหา ถ้าหากท้องลูกคนที่สอง อาจจะเกิดอาการแท้งเหมือนกับท้องแรก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะต้องปรึกษาแพทย์ เพื่อป้องกันการแท้ง จะได้ทราบแนวทางการปฏิบัติตัว รวมถึงการเข้ารับการรักษาได้อย่างถูกต้อง การแท้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นอาการแท้งที่เกิดจากครรภ์ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง จนทำให้เลือดออกจากช่องคลอดมาก จนก่อให้เกิดอาการปวดท้องน้อย ซึ่งเกิดจากการหดรัดของมดลูก ในกรณีนี้หากไปพบแพทย์ไม่ทัน หากปากมดลูกเปิดออก จะทำให้ตัวอ่อนถูกขับออกมาทันที การแท้งแบบคุกคาม เป็นลักษณะที่ช่องคลอดมีเลือดออกกระปริดกระปรอย โดยไม่มีอาการปวดท้อง จะมีอาการเหมือนกับเป็นประจำเดือน สาเหตุหลักเกิดจากความไม่สมดุลของทารก หากมดลูกเกิดการบีบตัวด้วย จะทำให้เกิดโอกาสแท้งได้สูงมาก การแท้งแบบสมบูรณ์ การแท้งในลักษณะนี้ คุณแม่ไม่ต้องขูดมดลูก เนื่องจากร่างกายขับทารก รก และส่วนของเนื้อเยื้อออกมาหมดแล้ว โดยจะมีอาการปวดท้องน้อย มีเลือดขับออกมาจากช่องคลอด จากนั้นอาการเหล่านี้ก็จะหายไปเอง การแท้งแบบไม่สมบูรณ์ การแท้งแบบไม่สมบูรณ์ อาจเกิดจากจากยังมีบางส่วนที่ยังค้างอยู่ในโพรงมดลูก จนทำให้เลือดไม่ยอมหยุดไหล ซึ่งคุณหมอจะต้องทำการรักษาโดยการขูดมดลูก จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ ที่มีสาเหตุเกิดจากเนื้อเยื้อต่าง ๆ เพื่อรักษาชีวิตคุณแม่เอาไว้ สาเหตุที่ทำให้เกิดการแท้งบุตร การแท้งบุตรเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาจเกิดจากมดลูกผิดปกติ จึงทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้ คุณแม่อาจเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ ในช่วงตั้งครรภ์มีอาการติดเชื้อจะทำให้เกิดการแท้งได้สูง […]

ciNlvIrDBHVyhRRRtiEo

การจัดการปัญหาท้องไม่พร้อมในโรงเรียนอย่างได้ผล

February 20, 2023

  ท้องไม่พร้อม หรือการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ (Unplanned Pregnancy) คือปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ โดยผู้ตั้งครรภ์ไม่ได้วางแผนหรือเตรียมตัวมีบุตรมาก่อน ส่งผลให้เกิดปัญหาในการดำเนินชีวิตและส่งผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อเด็กในครรภ์ เพราะเมื่อผู้ตั้งครรภ์ไม่ได้เตรียมตัวที่จะมีบุตร จึงไม่ได้มีการศึกษาและดูแลร่างกายให้เหมาะสมกับการมีบุตร ทำให้บุตรภายในครรภ์อาจมีสภาพร่างกายที่ไม่เหมาะสม หรือซ้ำร้ายผู้ตั้งครรภ์อาจเลือกวิธีทำแท้งซึ่งปัจจุบันการทำแท้งที่นอกเหนือจากการกระทำตามความเห็นของแพทย์นั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพื่อจบปัญหาต่าง ๆ   ปัญหาท้องไม่พร้อม มักพบเจอมากที่สุดในช่วงวัยรุ่น เพราะเป็นวัยที่ฮอร์โมนกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศ ทำให้เกิดความอยากรู้อยากลองในเรื่องทางเพศ ประจวบกับวุฒิภาวะและความยับยั้งชั่งใจ รวมถึงความเข้าใจในการคุมกำเนิดอย่างถูกวิธียังน้อย จึงมีความเสี่ยงที่เกิดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้ง่ายดายกว่าช่วงวัยอื่น ๆ          เมื่อวัยรุ่นประสบปัญหาการตั้งครรภ์สิ่งที่ตามมาอย่างเห็นได้ชัดคือปัญหาในด้านการเรียน เพราะแม้ว่าโรงเรียนจะไม่ได้ปิดโอกาสการมาเรียนของนักเรียนหญิงที่มีภาวะตั้งครรภ์ แต่ส่วนใหญ่นักเรียนที่ประสบปัญหามักจะอาย และเลือกที่จะหยุดเรียนแทน ทำให้นักเรียนกลุ่มนี้ประสบปัญหาด้านการเรียน และถึงแม้ว่าเป็นช่วงเวลาหลังคลอดแล้ว นักเรียนในกลุ่มนี้ก็มีแนวโน้มที่จะลาออกและเรียนไม่จบหลักสูตร          สำหรับการจัดการปัญหาท้องไม่พร้อมในโรงเรียนนั้น จะมีลักษณะที่เน้นด้านการป้องกันเป็นหลัก คือสร้างภูมิคุ้มกันให้นักเรียน เพื่อไม่ให้ต้องตกไปสู่วังวนของปัญหาดังกล่าว ซึ่งศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดมาตรการและแนวทางในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่ประสบปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน โดยให้หน่วยงานในสังกัดนำไปใช้เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการปัญหานี้ในทิศทางเดียวกัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ด้าน คือ1. การจัดการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาและการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กนักเรียน2. การเฝ้าระวัง การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน3. การดูแลให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองนักเรียนที่ตั้งครรภ์ในวัยเรียน4. การสร้างความตระหนักและการพัฒนาการมีส่วนร่วมของสังคม       […]

82855891_2467953706866272_3944132913901076480_n

จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง… หลังยุติการต้ังครรภ์ (ต้องรู้!!)

February 6, 2023

การทำแท้งในขณะที่อายุครรภ์ยังน้อยนั้น มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมาก ถ้าใช้วิธีการทำแท้งแบบสมัยใหม่และใช้อย่างถูกต้อง เช่น การใช้ยาทำแท้งที่ถูกต้อง โดยการใช้ยาดังกล่าวไม่มีผลระยะยาวต่อสุขภาพของผู้หญิง เพราะการใช้ยา เหมือนการแท้งธรรมชาติ การผ่านประสบการณ์ยุติการตั้งครรภ์นั้น ทําให้หลายๆ คน ได้เรียนรู้และเข้าใจโลกมากยิ่งขึ้น ใช้ชีวิตได้อย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น สิ่งนึงที่แอดอยากจะย้ำกับพวกเราทุกคน คือ การยุติการตั้งครรภ์ หรือทำแท้งนั้น ถือเป็นบริการทางสุขภาพ และเป็นทางเลือกเมื่อท้องไม่พร้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม !! (ดอกจันเยอะๆ เลยนะ) ในช่วงปีที่ผ่านมา มีหลายๆ คน ทัก IB เข้ามาถาม ด้วยความกังวล ทั้งก่อนและหลังยุติการตั้งครรภ์ เป็นจำนวนมาก วันนี้แอดได้รวบรวมส่วนนึงมาเล่าให้ฟังนะ 1.”รักษาแล้วจะหายขาดไหม” หลังการรักษาอาจมีอาการข้างเคียง โดยอาการที่พบได้เป็นปกติ ได้แก่– อาการปวดท้องน้อยที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาไมโซพรอสตอล ที่ทำให้มดลูกเกิดการบีบตัว ซึ่งมักปวดไม่มากเมื่อเทียบกับการขูดมดลูก อาการปวดจะดีขึ้น เมื่อมดลูกมีการบีบขับสิ่งที่ค้างอยู่ออกไป– เลือดออกทางช่องคลอด การยุติการตั้งครรภ์ด้วยการใช้ยา ยาจะทำให้มดลูกบีบตัวเพื่อขับตัวอ่อนออกมา ซึ่งจะมีเลือดออกเป็นระยะเวลานานได้ การใช้ยายุติการตั้งครรภ์ จะมีเลือดออกทางช่องคลอดมากและนานกว่าเลือดประจำเดือนเล็กน้อย โดยปริมาณเลือดที่ออกจะสัมพันธ์กับอายุครรภ์ เลือดจะออกมากที่สุดในช่วง 3 – 6 ชั่วโมง ภายหลังจากการใช้ไมโซพรอสตอล และจะมีเลือดออกติดต่อกันประมาณ […]

s_215709_6340

ท้องไม่พร้อม จัดการอย่างไร

January 30, 2023

ท้องไม่พร้อม (Unplanned Pregnancy) คือการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ โดยผู้ตั้งครรภ์ไม่ได้วางแผนหรือเตรียมตัวมีบุตรมาก่อน ภาวะท้องไม่พร้อมถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ช่วยให้เข้าใจประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ จำนวนประชากรเกิดใหม่ที่เพิ่มขึ้น การไม่คุมกำเนิดเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และการวางแผนครอบครัว สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะท้องไม่พร้อมคือการไม่คุมกำเนิดเมื่อมีเพศสัมพันธ์ โดยฝ่ายชายและฝ่ายหญิงไม่ได้วางแผนจะมีบุตร รวมทั้งไม่หาวิธีป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีหลากหลายชนิด การคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิด ห่วงคุมกำเนิด หรือวิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ร้อยละ 80-90 ส่วนการคุมกำเนิดถาวรอย่างการทำหมัน สามารถคุมกำเนิดได้มากกว่าร้อยละ 99 อย่างไรก็ตาม ผู้ที่คุมกำเนิดไม่ถูกวิธี เช่น ใช้ถุงยางอนามัยแล้วเกิดรั่ว หรือรับประทานยาคุมกำเนิดไม่สม่ำเสมอ ก็เสี่ยงท้องไม่พร้อมได้ ส่วนผู้ที่เคยประสบภาวะมีบุตรยาก ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรืออยู่ในวัยใกล้หมดประจำเดือน ก็สามารถตั้งครรภ์ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เช่น ถูกข่มขืน หรือคู่นอนบังคับให้ร่วมเพศโดยไม่สวมถุงยางอนามัย ก็สามารถประสบภาวะท้องไม่พร้อม ภาวะท้องไม่พร้อมก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับแม่และเด็กหลายอย่าง เนื่องจากผู้ตั้งครรภ์ไม่ได้วางแผนเพื่อเตรียมตัวมีบุตรมาก่อน จึงอาจส่งผลต่อสุขภาพครรภ์ของตนเองและทารกในครรภ์ เช่น หากผู้ตั้งครรภ์ไม่ได้วางแผนมีบุตรแต่เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา ผู้ตั้งครรภ์อาจไม่สามารถรับมือหรือเตรียมตัวฝากครรภ์กับแพทย์ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งการฝากครรภ์ช้าอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพครรภ์และทารกได้ สัญญาณและวิธีตรวจว่าท้องหรือไม่ ผู้ที่ไม่ได้วางแผนมีบุตรสามารถทราบได้ว่าตนเองตั้งครรภ์หรือไม่ โดยสังเกตจากรอบเดือนที่ขาดไปหรือไม่มาตามปกติ ทั้งนี้ หากรู้สึกคัดเต้านม รวมทั้งคลื่นไส้และอาเจียนร่วมด้วยซึ่งเป็นอาการแพ้ท้อง ก็แสดงว่าอาจกำลังตั้งครรภ์ โดยอาการแพ้ท้องจะเกิดขึ้นเมื่ออายุครรภ์ได้ 6 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตาม การตรวจครรภ์จะช่วยระบุผลการตั้งครรภ์ได้อย่างชัดเจน ผู้ที่สงสัยว่าตนเองประสบภาวะท้องไม่พร้อมสามารถตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองได้ […]

IHL-D-เทคนิคคุณแม่ดูแลครรภ์-9-เดือนอย่างมีคุณภาพ

เทคนิคคุณแม่ดูแลครรภ์ 9 เดือนอย่างมีคุณภาพ

January 30, 2023

สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่รู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ แน่นอนว่าความกังวลใจเกี่ยวกับการดูแลครรภ์ย่อมเกิดขึ้น เพราะกว่าที่เจ้าตัวน้อยจะลืมตาออกมาดูโลกนั้นจะต้องอยู่ในท้องคุณแม่ถึง 9 เดือน ดังนั้นการใส่ใจดูแลครรภ์อย่างถูกวิธีคือสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจและร่วมมือกันเพื่อให้เจ้าตัวน้อยคลอดออกมาอย่างสมบูรณ์และแข็งแรง  รู้ทันพัฒนาการทารกในครรภ์ เดือนที่ 1 ทางการแพทย์จะเริ่มนับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายเป็นวันแรกของการตั้งครรภ์และนับไปจนครบ 40 สัปดาห์เป็นวันคะเนกำหนดคลอด เดือนที่ 2 (5 – 8 สัปดาห์) เดือนที่ 3 (9 – 12 สัปดาห์) เดือนที่ 4 (13 – 16 สัปดาห์) เดือนที่ 5 (17 – 20 สัปดาห์) เดือนที่ 6 (21 – 24 สัปดาห์) เดือนที่ 7 (25 – 28 สัปดาห์) เดือนที่ 8 (29 – 32 สัปดาห์) เดือนที่ 9(33 – 36 สัปดาห์) เดือนที่ 10(37 – 40 สัปดาห์) ดูแลครรภ์ให้ถูกวิธี ฝากครรภ์สำคัญที่สุดเพื่อช่วย อาหารต้องเหมาะสม ได้แก่ ใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ ได้แก่ ออกกำลังกายและทำงานแบบพอดี ได้แก่  6 อาการที่คุณแม่ต้องระวัง หากมีอาการดังต่อไปนี้ควรรีบมาพบแพทย์ทันที เพราะอาจเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ ตลอดระยะเวลาของการตั้งครรภ์ […]

Image_AW_Website_เทคนิคดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์อย่างมีสุขภาพดีทั้งแม่และทารกในครรภ์-01

เทคนิคดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ให้มีสุขภาพดีทั้งแม่และทารก

January 26, 2023

ในระหว่างตั้งครรภ์ สิ่งสำคัญที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกๆ คือ การดูแลตัวเองให้มีทั้งสุขภาพร่างกายแข็งแรง สภาพจิตใจที่สมบูรณ์ เพื่อที่จะส่งผลไปยังทารกในครรภ์ให้แข็งแรงและสุขภาพดี ดังนั้น การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจ เพื่อให้ทารกคลอดออกมาอย่างสมบูรณ์และแข็งแรง เพียงแค่คุณแม่ปฏิบัติตามเทคนิคดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์นี้ ก็จะทำให้มั่นใจได้ว่าทารกในครรภ์จะมีสุขภาพดีตามไปด้วยแน่นอน -ช่วงตั้งครรภ์ 1-3 เดือนแรก ควรได้รับพลังงาน 2,050 กิโลแคลอรีต่อวัน (ไม่ต้องเพิ่ม)-ช่วงตั้งครรภ์เดือนที่ 4-6 วรได้รับพลังงานเพิ่มขึ้นจากเดิมวันละ 350 กิโลแคลอรี-ช่วงตั้งครรภ์เดือนที่ 7-9 ควรได้รับพลังงานเพิ่มขึ้นจากเดิมวันละ 470 กิโลแคลอรีสำหรับสารอาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ได้แก่-โปรตีน มีความสำคัญต่อการสร้างเซลล์ของทารกในครรภ์ ช่วยให้เจริญเติบโต มาจาก โปรตีนจากสัตว์ ได้แก่ ไข่ นม เนยแข็ง เนื้อสัตว์ และปลา-คาร์โบไฮเดรต อาหารจำพวกแป้ง แต่ควรเลือกบริโภคข้าวไม่ขัดสีแทนข้าวขาว ขนมปังโฮลวีท ไม่ควรรับประทานน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชา และหลีกเลี่ยงอาหารหวาน-ใยอาหาร จากผักและผลไม้ช่วยป้องกันอาการท้องผูก ทั้งยังได้วิตามินพร้อมด้วยแร่ธาตุต่างๆ ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงครรภ์ และสร้างกระบวนการเจริญเติบโตให้กับทารกในครรภ์ เช่น มะละกอสุก ส้ม กล้วย มะพร้าว ฝรั่ง […]

Blighted-Ovum-FB-WP-1024x640

ท้องลม (Blighted Ovum) คืออะไร?

January 24, 2023

ท้องลม เกิดจากอะไร? สาเหตุของการเกิดภาวะท้องลมนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด พบว่าส่วนใหญ่ประมาณ 45 – 50% เกิดจากตัวอ่อนมีความผิดปกติของโครโมโซม ทำให้ไม่สามารถเจริญต่อเป็นทารกได้ตามปกติ และสลายตัวไป คงเหลือแต่ถุงการตั้งครรภ์ กระบวนการแท้งลูก อาจใช้เวลาระหว่าง 7 – 12 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ เมื่อร่างกายของเรารับรู้ถึงการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ และไม่มีการพัฒนาอย่างเหมาะสม ก็จะเริ่มขับเลือดและเนื้อเยื่อออกจากมดลูก เรียกว่า การตกเลือด ซึ่งผู้ตั้งครรภ์ต้องพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยสาเหตุของการตกเลือดต่อไป ทำไมท้องลมแล้วถึงได้ผลตรวจการตั้งครรภ์เป็นบวก? การตรวจการตั้งครรภ์ แบ่งได้เป็น 3 วิธี คือ การตรวจโดยใช้ปัสสาวะ การตรวจโดยใช้เลือด และการตรวจด้วยวิธีอัลตราซาวด์ สำหรับ 2 วิธีแรก จะใช้ในการตรวจหาฮอร์โมนที่ชื่อว่า HCG (human chorionic gonadotropin) เนื่องจากเป็นฮอร์โมนที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ ฮอร์โมนดังกล่าว ถูกสร้างจากรก หลังจากเกิดการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิ และตัวอ่อนฝังตัวที่ผนังมดลูกแล้วอย่างน้อย 6 วัน โดยในช่วงแรก HCG จะมีค่าต่ำมาก แต่จะมีค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในกรณีของผู้ที่มีภาวะท้องลม แม้ว่าตัวอ่อนอาจฝ่อไปแล้ว แต่รกที่เติบโตขึ้นมานั้น […]

วิธีดูแลตัวเองหลังแท้ง1

อาการหลังลูกหลุด สาเหตุ และวิธีดูแลสุขภาพของคุณแม่

January 24, 2023

อาการหลังลูกหลุดจากการแท้งลูก นอกจากอาการทางกายอย่างเลือดออกจากช่องคลอด รู้สึกไม่สบายตัวแล้ว ยังอาจมีอาการทางจิตใจเนื่องจากความเสียใจจากการสูญเสียทารกในครรภ์ก่อนถึงวันกำหนดคลอด อาจส่งผลให้ นอนไม่หลับ ฝันร้าย เบื่ออาหาร ซึมเศร้า จนอาจนำไปสู่ความคิดอยากทำร้ายตัวเองได้ ดังนั้น คนรอบข้างจึงควรดูแลสุขภาพทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่อาจนำไปสู่การสูญเสียมากกว่าเดิม สาเหตุที่ทำให้ลูกหลุดสาเหตุที่ทำให้ลูกหลุด ซึ่งมักพบได้ในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์ อาจมาจากปัญหาต่าง ๆ ดังนี้ -ปัญหาโครโมโซมผิดปกติ โครโมโซมหรือสารพันธุกรรมมีความสำคัญต่อการควบคุมปัจจัยต่าง ๆ เช่น การพัฒนาเซลล์ของร่างกาย อวัยวะเเละโครงสร้างระบบต่างๆ สีดวงตา สีผิวของทารก แต่หากโครโมโซมมีความผิดปกติ อาจทำให้ร่างกายทารกไม่สามารถพัฒนาได้ตามปกติ จนนำไปสู่การแท้งบุตรหรือทำให้ลูกหลุด -ปัญหาเกี่ยวกับรก เนื่องจากรกเป็นอวัยวะที่เชื่อมโยงระหว่างคุณแม่และทารก มีหน้าที่คอยรับเลือดและสารอาหารจากคุณแม่ส่งต่อสู่ลูก หากรกมีปัญหา เช่น รกเกาะต่ำ รกมีขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กผิดปกติ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการแท้งลูกได้ ไตรมาสที่ 2 -ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovary Syndrome) เกิดจากความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ที่อาจส่งผลให้เสี่ยงแท้งลูกโดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีลูกยาก -การสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่มีสารเคมีมากกว่า 4,000 ชนิด ดังนั้นการสูบบุหรี่จึงอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทารกในครรภ์ เสี่ยงแท้งลูก อีกทั้งยังทำให้น้ำหนักแรกเกิดต่ำ โรคหลอดลมอักเสบ ปอดบวม และเสียชีวิตกะทันหัน […]

pregnancy-care-banner-1

การดูแลการตั้งครรภ์

January 18, 2023

การดูแลสุขภาพของแม่และทารกในครรภ์ทั้งขณะตั้งครรภ์และหลังคลอดบุตร ซึ่งเป็นขั้นตอนสําคัญที่จะทําให้ทั้งแม่และบุตรมีสุขภาพดี แข็งแรง การดูแลการตั้งครรภ์เป็นการดูแลสุขภาพของแม่และทารกในครรภ์ทั้งขณะตั้งครรภ์และหลังคลอดบุตร ซึ่งเป็นขั้นตอนสําคัญที่จะทําให้ ทั้งแม่และบุตรมีสุขภาพดี แข็งแรง และยังเปิดโอกาสให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้เรียนรู้ทักษะพื้นฐานในการดูแลตนเองและบุตรจากบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีความชำนาญ ทราบว่าอะไรที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของบุตรในครรภ์ และรู้จักวิธีการดูแลทารกแรกเกิดและสุขภาพของตนเองหลังคลอดบุตร การดูแลตัวเองก่อนการตั้งครรภ์สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่เริ่มวางแผนจะมีทารกหรืออย่างน้อย 3 เดือนก่อนการตั้งครรภ์ โดยอาจเริ่ม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีดังต่อไปนี้-เลิกสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-รับประทานกรดโฟลิกขนาดอย่างน้อย 400 ไมโครกรัมทุกวัน-ปรึกษาแพทย์เรื่องโรคประจำตัวและยาหรืออาหารเสริมที่รับประทานอยู่-หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตรายและสารพิษที่บ้านหรือที่ทํางาน การฝากครรภ์ เมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ สิ่งที่ผู้หญิงทุกคนควรทำคือการไปฝากครรภ์ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการฝากครรภ์ทำให้หญิงตั้งครรภ์ได้พบแพทย์ตรวจสุขภาพร่างกายอย่างเป็นประจำ ช่วยลดความเสี่ยงระหว่างการตั้งครรภ์และเพิ่มอัตราการคลอดบุตรอย่างปลอดภัยและประสบความสําเร็จ โดยแพทย์จะตรวจสุขภาพครรภ์ ป้องกัน หรือรักษาภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ หญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ฝากครรภ์จะมีความเสี่ยงที่จะให้กำเนิดทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยสูงถึง 3 เท่า และทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อยมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูงถึง 5 เท่ากว่าทารกที่เกิดจากแม่ที่ฝากครรภ์ ระหว่างการตั้งครรภ์ แพทย์จะทำการนัดตรวจ-ทุกเดือนในช่วง 6 เดือนแรกของการตั้งครรภ์-ทุกสองสัปดาห์ในเดือนที่ 7 และ 8 ของการตั้งครรภ์-ทุกสัปดาห์ในช่วงเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากอายุหรือปัญหาทางด้านสุขภาพ แพทย์จะทำการนัดตรวจบ่อยขึ้น เมื่อไปตามนัดแพทย์จะทําการตรวจสุขภาพตามปกติ ซึ่งอาจรวมไปถึง แพทย์พิจารณาการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะในบางช่วงขณะตั้งครรภ์-การตรวจวัดความดันโลหิต-การตรวจวัดน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์-การตรวจวัดการเจริญเติบโตและอัตราการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์ แพทย์จะทำการตรวจตําแหน่งของทารกในเดือนสุดท้าย ระหว่างการตั้งครรภ์นั้นหญิงตั้งครรภ์สามารถเข้าร่วมชั้นเรียนการเตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่ตามที่แพทย์แนะนำได้ โดยคุณแม่มือใหม่จะได้เรียนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้างระหว่างการตั้งครรภ์ การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนคลอด วิธีการดูแลทารก เช่น การอาบน้ำและให้นม เป็นต้น […]