คำแนะนำการดูแลทารกเมื่อกลับบ้าน

ควรอาบน้ำและสระผมให้เด็กด้วยน้ำอุ่นทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง ในช่วงระหว่างมื้อนม (ช่วงหลังทานนมไปแล้วประมาณ 2ชั่วโมง เพื่อป้องกันเด็กอาเจียน หรือ …

ข้อปฏิบัติ..ในการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่

สามารถให้เด็กดูดได้ทุกๆ 3 ชั่วโมง โดยดูดจากทั้ง 2 เต้า ข้างละประมาณ 10-15 นาที ในมื้อถัดไปให้เริ่มดูดข้างที่ดูดสุดท้ายของมื้อที่แล้วก่อน การสังเกตว่าจะมีน้ำนมเพียงพอต่อบุตรหรือไม่ ดูได้จากขณะที่เด็กดูดนมข้างใดข้างหนึ่งจะมีน้ำนมออกจากเต้าอีกข้างด้วย และดูเวลานอนของเด็กถ้าเด็กนอนได้ 2-3ชั่วโมงในแต่ละมื้อ แสดงว่าน้ำนมมารดามีความเพียงพอสำหรับลูกแล้ว สุดท้ายก็ดูจากน้ำหนักของเด็กเมื่อมาตรวจร่างกายตามนัด

ข้อปฏิบัติ..ในการเลี้ยงลูกด้วยนมผง

นมแม่เป็นนมที่ดีที่สุดสำหรับทารก แต่ถ้าแม่ไม่สามารถให้นมเองได้หรือน้ำนมไม่เพียงพอ อาจจำเป็นต้องใช้นมผงดัดแปลงสำหรับทารกแรกเกิด โดยมีรายละเอียด ดังนี้..

ส่วนผสมของนม : นม 1 ช้อน ต่อ น้ำต้มสุก 1 ออนซ์ หรือ นม 1 ช้อน ต่อ น้ำต้มสุก 2 ออนซ์ แล้วแต่ชนิดของนมผง

วิธีการชง : นำน้ำต้มสุกที่อุ่นใส่ขวดนมให้ได้ปริมาณออนซ์ที่ถูกต้อง จากนั้นปิดจุกขวดนมแล้วเขย่าให้นมละลาย ก่อนให้เด็กดูดทดสอบโดยหยดลงบนหลังมือ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กได้รับนมที่ร้อนเกินไป

ข้อปฏิบัติ..เกี่ยวกับเวลาในการให้นมบุตร

เวลาที่เหมาะสม คือ 06 -09 -15 -18 -21 -24 -03 น. เนื่องจากเด็กจะทานนมทุกๆ 3 ชั่วโมง  ขณะที่เด็กทานนมมารดาอยู่ให้เด็กดูดนมมารดาก่อนแล้วค่อยตามด้วยนมผสมที่เตรียมไว้

ข้อปฏิบัติ..การเก็บรักษานม

เก็บในอุณหภูมิห้องได้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง แต่ถ้าเด็กดูดไม่หมดนมที่เหลือให้ทิ้งไป ห้ามนำมาป้อนต่อในมื้อต่อไป นมผงที่ชงเสร็จแล้วรวมทั้งนมมารดาที่ปั๊มเก็บไว้สามารถเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาได้ 24 ชั่งโมง เมื่อนำออกมาจากตู้เย็นอุ่นนมในน้ำร้อนให้หายเย็นก็สามารถให้เด็กดูดได้เลย

โดยวิธีการให้นม ควรจับให้เด็กมีการไล่ลมหรือจับให้เรอระหว่างมื้อนมหลังดูดนมไปแล้ว ประมาณ 1/2 – 1ออนซ์ ทุกครั้งไปจนนมหมดขวด และจับเรอหลังทานนมอีกครั้งก่อนให้เด็กนอน

ข้อปฏิบัติ..การให้น้ำเด็กทารก

เด็กที่ทานนมแม่หรือนมผสมที่ชงถูกต้องตามอัตราส่วนที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องให้น้ำเสริม แต่ในกรณีที่เด็กทานนมแม่ร่วมกับนมผสม ใช้น้ำต้มสุกให้เด็กดูดเพียงเล็กน้อยเป็นการล้างปากหลังทานนมได้

สำหรับคราบขาวที่ลิ้นที่พบในเด็กที่ทานนมผสม ถ้ามีมากให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกเช็ดระหว่างมื้อนมได้ แต่ถ้ามีไม่มากและเด็กยังดูดนมได้ดีอาจไม่ต้องเช็ดก็ได้ เมื่อเด็กอายุมากขึ้นคราบขาวที่ลิ้นจะค่อยๆ หายไปเอง แต่ถ้ากรณีที่เด็กทานนมแม่อย่างเดียวไม่ต้องให้ดูดน้ำตาม เพราะนมแม่มีสารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราในปากไม่จำเป็นต้องล้างออก

ข้อปฏิบัติ..การทำความสะอาดขวดนม

ล้างขวดนมให้สะอาด แล้วนึ่งหรือต้มในน้ำเดือดนาน 20 นาที

ข้อปฏิบัติ..การอาบน้ำเด็กทารก

ควรอาบน้ำและสระผมให้เด็กด้วยน้ำอุ่นทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง ในช่วงระหว่างมื้อนม (ช่วงหลังทานนมไปแล้วประมาณ 2ชั่วโมง เพื่อป้องกันเด็กอาเจียน หรือก่อนมื้อนมถัดไป) ควรจะเป็นเวลาเช้า 9-10 น. หรือช่วงบ่าย 14-15 น.

ข้อปฏิบัติ..ในการดูแลสะดือ

สะดือเปียกน้ำได้ไม่ว่าสายสะดือจะหลุดแล้วหรือไม่ก็ตาม หลังอาบน้ำทุกครั้งควรเช็ดสะดือด้วยน้ำยา Alcohol 70% ได้บ่อยตามต้องการ ห้ามโรยแป้งที่สะดือ โดยเช็ดทุกครั้งหลังอาบน้ำและเวลาที่เปลี่ยนผ้าอ้อมจนกว่าสะดือจะแห้ง สายสะดือจะหลุดได้ตั้งแต่หลังคลอดวันที่ 5 เป็นต้นไป จนถึง 3 สัปดาห์หลังคลอด

ก่อนสายสะดือจะหลุดหรือช่วงที่สายสะดือหลุดใหม่ๆ โคนสะดือจะมีเลือดหรือน้ำเหลืองเก่าๆ ออกมา ใช้สำลีชุบน้ำยา Alcohol 70% เช็ดบริเวณโคนสะดือให้สะอาด โดยดึงสายสะดือขึ้นแล้วเช็ดตามสายสะดือลงไปจนถึงโคนสะดือ เมื่อสายสะดือหลุดแล้วสะดือจะยังไม่แห้ง ให้ใช้น้ำยา Alcohol 70% เช็ดต่อจนกว่าสะดือจะแห้งดีแล้ว

ข้อปฏิบัติ..ในการดูแลแผลขลิบปลายอวัยวะเพศ

เด็กสามารถอาบน้ำได้ ถ้าบริเวณแผลมีคราบเหลืองให้ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นชุ่มๆ หุ้มที่อวัยวะที่ขลิบหุ้มนานประมาณ 2-3 นาที แล้วลูบขึ้นเบาๆ เมือกเหลืองๆ ที่เกาะอยู่รอบๆ จะหลุด ให้รูดปลายอวัยวะที่ขลิบทุกวัน วันละ 3-4 ครั้ง เพื่อป้องกันแผลกลับมาติดแน่นจนกว่าแผลจะแห้งดีและห้ามโรยแป้งที่แผลจนกว่าแผลจะแห้ง

ข้อปฏิบัติ..การดูแลแผลที่ฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรค

เด็กจะได้รับวัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG) บริเวณหัวไหล่ข้างซ้ายก่อนออกจากโรงพยาบาลทุกคน เด็กจะไม่มีไข้ และประมาณ 2-3 สัปดาห์ขึ้นไป ตรงบริเวณรอยฉีดจะเป็นตุ่ม หนองอาจจะเป็นๆ ยุบๆ อยู่ประมาณ 3-4 สัปดาห์ จึงกลายเป็นแผลเล็กๆ ห้ามแกะแผล ห้ามใช้น้ำย าAlcohol 70% เช็ด ให้เช็ดบริเวณแผลให้สะอาดและแห้งเสมอด้วยน้ำต้มสุก แต่ถ้าเกิดแผลลามใหญ่มากให้พาเด็กมาพบแพทย์

ข้อปฏิบัติ..ในการให้อาหารเสริม

อาหารเสริมจะเริ่มเมื่อเด็กอายุประมาณ 6 เดือน ซึ่งกุมารแพทย์จะแนะนำเมื่อมารดาพาเด็กมาตรวจตามนัดอีกครั้ง